แนวข้อสอบ พรบ. ข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. 2540
1. ใครมีสิทธิเข้าตรวจดู ขอสำเนาของข้อมูลข่าวสารที่ส่วนราชการจัดไว้ให้
ก. บุคคลทั่วไป ข. บุคคลที่มีส่วนได้เสียเกี่ยวข้องกับข้อมูล
ค. บุคคลที่ไม่มีส่วนได้เสียเกี่ยวกับข้อมูล ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
2. หากมีบุคคลมาร้องเรียนต่อคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารฯ คณะกรรมการต้องพิจารณาให้ แล้วเสร็จภายในกี่วัน
ก. ภายใน 15 วัน
ข. ภายใน 15 วันนับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ค. ภายใน 30 วัน
ง. ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
ตอบ ง. ภายใน 30 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับคำร้องเรียน
3. ในกรณีที่หน่วยงานของรัฐพิจารณาว่าการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารฯ จะก่อให้เกิดอันตรายหรือต่อความปลอดภัยของบุคคลหนึ่งบุคคลใด จะดำเนินการอย่างไร
ก. ไม่เปิดเผย ข. ให้คำชี้แจง
ค. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย ง. ไม่รับคำขอ
ตอบ ค. ทำคำสั่งมิให้เปิดเผย
4. ข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคล คำว่า “บุคคล” หมายถึงข้อใด
ก. บุคคลธรรมดาที่มีสัญชาติไทย
ข. นิติบุคคล
ค. บุคคลธรรมดาที่ไม่มีสัญชาติไทย แต่มีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย
ง. ถูกทุกข้อเฉพาะข้อ ก และ ค
ตอบ ง. ถูกทุกข้อเฉพาะข้อ ก และ ค
5. มีอำนาจวินิจฉัย อุทธรณ์คำสั่งมิให้เปิดเผยข้อมูลข่าวสารหรือคำสั่ง ไม่รับคำคัดค้านและคำสั่งไม่ให้แก้ไข เปลี่ยนแปลงหรือลบข้อมูล คือหน่วยงานใด
ก. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของทางราชการ
ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ค. คณะอนุกรรมการที่มีคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการแต่งตั้ง
ง. คณะอนุกรรมการที่คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสารราชการแต่งตั้ง
ตอบ ข. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
6. ข้อใดไม่ใช่หน่วยงานรัฐตาม พ.ร.บ.ข้อมูลข่าวสารราชการ พ.ศ. 2540
ก. กระทรวงศึกษาธิการ ข. คณะกรรมการของสภา
ค. คณะกรรมการการเลือกตั้ง ง. ศาลที่พิจารณาคดี
ตอบ ง. ศาลที่พิจารณาคดี
7. ข้อใดคือเหตุยกเว้นไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลราชการ
ก. ข้อมูลที่หากเปิดเผยแล้วทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ
ข. ข้อมูลที่หากเปิดเผยแล้วเกิดผลเสียหายต่อประโยชน์ที่สำคัญของเอกชน
ค. ข้อมูลที่เปิดเผยแล้วเกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ง. ข้อ ก และ ข ถูก
ตอบ ง. ข้อ ก และ ข ถูก
8. หน่วยงานรัฐต้องจัดข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลตามข้อใด
ก. จัดระบบข้อมูลข่าวสารเท่าที่จำเป็นเกี่ยวกับการดำเนินการของหน่วยงาน
ข. เก็บข้อมูลจากเจ้าของโดยตรงและตรวจสอบ แก้ไขข้อมูลให้ถูกต้องอยู่เสมอ
ค. จัดระบบความปลอดภัยให้กับข้อมูล
ง. ถูกทุกข้อ
ตอบ ง. ถูกทุกข้อ
9. ข้อมูลของสำนักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ ที่มีคำสั่งมิให้เปิดเผยเนื่องจาก
จะก่อให้เกิดอันตรายต่อข้าราชการในสังกัดเมื่อเก็บรักษาไว้แล้วกี่ปี จึงจะส่งข้อมูลดังกล่าว ไปเก็บไว้ที่กองจดหมายเหตุแห่งชาติ
ก. ครบ 10 ปี ข. ครบ 20 ปี
ค. ครบ 25 ปี ง. ครบ 75 ปี
ตอบ ข. ครบ 20 ปี
10. ใครเป็นประธานคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารราชการ
ก. นายกรัฐมนตรี ข. รมต. ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
ค. รมต. ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย ง. ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ตอบ ค. รมต. ที่นายกรัฐมนตรีมอบหมาย
11. ข้อใดกล่าวถูกต้องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540
ก. ผู้ยกร่างคือ สสร. จำนวน 99 คน
ข. มีผลบังคับใช้ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา คือ 11 ต.ค. 40
ค. เป็นกฎหมายสูงสุด ฉบับที่ 16 สาระสำคัญส่งเสริมปฏิรูปทางการเมืองเป็นเป้าหมายหลัก
ง. นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการ
ตอบ ก. ผู้ยกร่างคือ สสร. จำนวน 99 คน
12. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้อง
ก. ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิและเสรีภาพของบุคคลย่อมได้รับความคุ้มครอง
ข. พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดกล่าวหา
ฟ้องร้องมิได้
ค. ประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอยู่ภายใต้ความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญ
ง. กรณีที่ไม่มีบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญบังคับ การวินิจฉัยกรณีนั้นเป็นไปตามประเพณี
ปกครองระบอบประชาธิปไตย
ตอบ ค. ประชาชนทุกหมู่เหล่า ที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยอยู่ภายใต้ความคุ้มครองแห่งรัฐธรรมนูญ
13. คณะบุคคลตามข้อใด ไม่ได้ระบุไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2540
ก. คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ข. คณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
ค. คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
ง. คณะกรรมการเลือกตั้งแห่งชาติ
ตอบ ง. คณะกรรมการเลือกตั้งแห่งชาติ
14. ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับคณะองคมนตรี
ก. คณะองคมนตรีมี 19 คน มีประธานองคมนตรี 1 คน องคมนตรี 18 คน
ข. ประธานรัฐสภา เป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธาน
ค. กษัตริย์สามารถเลือกแต่งตั้งปลดออกตามพระราชอัธยาศัย
ง. องคมนตรีต้องไม่เป็นบุคคลหรือคณะบุคคลต่างๆ ที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ
ตอบ ข. ประธานรัฐสภา เป็นผู้ลงนามสนองพระบรมราชโองการแต่งตั้งประธาน
15. ข้อใดไม่ใช่เสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญกำหนด
ก. เสรีภาพในการเดินทางและเลือกถิ่นที่อยู่
ข. เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การพูดการสื่อสาร การสื่อความหมาย
ค. เสรีภาพในการรักษาพยาบาลจากสถานบริการของรัฐ
ง. เสรีภาพในการนับถือศาสนาปฏิบัติตามพิธีกรรมของศาสนา
ตอบ ค. เสรีภาพในการรักษาพยาบาลจากสถานบริการของรัฐ
16. ข้อใดไม่ใช่เสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญกำหนด
ก. เสรีภาพในชีวิตและร่างกาย
ข. เสรีภาพในการสื่อสาร
ค. เสรีภาพในการชุมนุมโดย
ง. เสรีภาพในการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐที่ต้องจัดให้
ตอบ ง. เสรีภาพในการศึกษาขั้นพื้นฐานของรัฐที่ต้องจัดให้
17. ข้อใดเป็นความเสมอภาคตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ก. กฎหมายและการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
ข. ชีวิตและร่างกายของบุคคล
ค. การรวมตัวกันเป็นสมาคมสหภาพสหพันธ์ สหกรณ์ หรือหมู่คณะอื่น
ง. การรวมตัวในการจัดตั้งพรรคการเมือง
ตอบ ก. กฎหมายและการได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย
18. ข้อใดเป็นสิทธิของบุคคลตามรัฐธรรมนูญกำหนด
ก. การบำรุงรักษา คุ้มครองส่งเสริมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ข. การประกอบอาชีพ กิจกรรมต่างๆ
ค. ทางวิชาการ
ง. ในเคหสถาน การเดินทาง การเลือกที่อยู่
ตอบ ก. การบำรุงรักษา คุ้มครองส่งเสริมทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
19. ข้อใดเป็นเสรีภาพของบุคคลตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด
ก. การต่อต้านโดยสันติวิธี
ข. การฟ้องร้องหน่วยงานราชการ องค์กรรัฐ นิติบุคคล
ค. การเสนอเรื่องราวร้องทุกข์
ง. ในชีวิตและร่างกาย
ตอบ ง. ในชีวิตและร่างกาย
20. ข้อใดเป็นทั้งสิทธิและเสรีภาพของบุคคลตามรัฐธรรมนูญกำหนด
ก. ในชีวิตและร่างกาย
ข. ในครอบครัว เกียรติยศชื่อเสียง ความเป็นอยู่ส่วนตัว
ค. การรับข้อมูล คำชี้แจงเหตุผลจากหน่วยงานราชการ
ง. ได้รับสิ่งอำนวยความสะดวกอันเป็นสาธารณะและความช่วยเหลืออื่นจากรัฐ
ตอบ ก. ในชีวิตและร่างกาย
21. การที่บุคคลได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี ที่รัฐจักให้ถือว่าเป็นเรื่องใด
ก. สิทธิ ข. เสรีภาพ
ค. หน้าที่ ง. ความเสมอภาค
ตอบ ก. สิทธิ
22. ข้อใดไม่ใช่หน้าที่ของชนชาวไทย
ก. การปฏิบัติตามกฎหมาย และไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ข. การช่วยเหลือราชการ เสียภาษี เป็นทหารช่วยป้องกันประเทศ
ค. รักษา ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และการปกครองระบอบประชาธิปไตย
ง. ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
ตอบ ง. ล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
23. บุคคลตามข้อใดต้องวางตัวเป็นกลางทางการเมือง
ก. บุคคลทั่วไป ข. เอกชน
ค. ข้าราชการ ง. นิติบุคคล
ตอบ ค. ข้าราชการ
24. ข้อใดกล่าวถึงการจัดการศึกษาในแนวนโยบายพื้นฐานของรัฐ
ก. กระจายอำนาจให้ท้องถิ่นสามารถจัดการศึกษาได้มากขึ้น
ข. จัดการศึกษาและสนับสนุนให้เอกชนจัดการศึกษาอบรมให้เกิดความรู้ คู่คุณธรรม
ค. ปรับปรุงการศึกษาให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจและสังคม
ง. ข้อ ข และข้อ ค ถูก
ตอบ ง. ข้อ ข และข้อ ค ถูก
25. องค์ประกอบของรัฐสภา คือข้อใด
ก. สภาผู้แทนราษฎร
ข. สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
ค. สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา และสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ง. สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา สภาความมั่นคงแห่งชาติ และสภาพัฒนา
ตอบ ข. สภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภา
26. บุคคลใดเป็นประธานรัฐสภา
ก. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
ข. ประธานวุฒิสภา
ค. ประธานที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ง. จากการคัดเลือกของสภาทั้งสอง
ตอบ ก. ประธานสภาผู้แทนราษฎร
27. ผู้ที่นำร่างพระราชบัญญัติหรือร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญที่ได้รับความเห็นชอบจาก
สภาแล้วทูลเกล้าฯ ทูลกระหม่อมถวายพระมหากษัตริย์
ก. ประธานรัฐสภา ข. ประธานวุฒิสภา
ค. ประธานสภาผู้แทนราษฎร ง. นายกรัฐมนตรี
ตอบ ง. นายกรัฐมนตรี
28. ข้อมูลข่าวสารในข้อใดที่ไม่ต้องเปิดเผย
ก. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
ข. ข้อมูลข่าวสารที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงของประเทศ
ค. ข้อมูลข่าวสารที่จะก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
ตอบ ก. ข้อมูลข่าวสารของราชการที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์
29. ข้อมูลข่าวสารของราชารในข้อใดที่เจ้าหน้าที่ของรัฐอาจมีคำสั่งมิให้เปิดเผยก็ได้
ก. การเปิดเผยจะก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตหรือความปลอดภัยของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง
ข. รายงานการแพทย์หรือข้อมูลข่าวสารส่วนบุคคลซึ่งการเปิดเผยจะเป็นการรุกล้ำสิทธิส่วนบุคคล
โดยไม่สมควร
ค. การเปิดเผยจะทำให้การบังคับใช้กฎหมายเสื่อมประสิทธิภาพหรือไม่อาจสำเร็จตามวัตถุประสงค์ได้
ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
ตอบ ง. ทุกข้อที่กล่าวมา
30. ข้อมูลข่าวสารที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อสถาบันพระมหากษัตริย์มีอายุการเก็บรักษากี่ปี
ก. 20 ปี ข. 25 ปี
ค. 35 ปี ง. 75 ปี
ตอบ ง. 75 ปี
31. กรณีประชาชนไม่ได้รับความสะดวกในการเข้าดูข้อมูลข่าวสารของราชการโดยไม่มีเหตุอันสมควร
จะร้องเรียนต่อหน่วยงานใด
ก. ผู้บังคับบัญชาของหน่วยงานตนเอง
ข. ผู้ว่าราชการจังหวัด
ค. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ
ง. คณะกรรมการวินิจฉัยการเปิดเผยข้อมูลข่าวสาร
ตอบ ค. คณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ